intro
ยังมีเมืองใหญ่กว้าง เฮียกซื่อ ทวาลี มีพญาทวาละ นั่งเมืองเป็นเจ้า มีมเหสีบ่ทันเฒ่า นามว่า สุวรรณบุปผา เพิ่นปกครองเมืองมา จนอยู่เย็นทั้งภายพื้น ซื่นซื่นพร้อม ชาวประชา หัวม่วน มวลชนสุขลื่นล้น ย่อนบุญเจ้าหน่อพญา ซั่นแหลว ...
กะจั่งว่านั่นล่ะน้อ...แล้วกะในเมืองทวาลีเอง กะมีผู้ชายผู้นึง ชื่อว่า หมื่นดั้น กับผู้ญิงผู้นึง ชื่อว่า นางปลี แต่งงานอยู่กินนำกันมา กะหลายปีเติบล่ะหวา...กะยังบ่ทันมีลูก (น่าน น่าน เว้าแบบนี้ แสดงว่าใกล้สิมีลูกแล้วเด้หนิ..)
อยู่มามื้อนึง ยามกลางคืน นางปลี (ฮู้ย..เอิ้นบ่แซบ...เอิ้นเลาว่า แม่ใหญ่ปลีซะเนาะ จั่งถนัดปาก.... เอ๋า เลาบ่ทันได้เฒ่าสิไปเอิ้นเลาว่าแม่ใหญ่จั่งได๋เนาะ เดี๋ยวเลาสิเคียดเด้ ....บ้อ บ่เอิ้นกะได้ขั่นน่ะ) นางปลี กะนอนหลับ ฝันว่า
เจ้าของ หิวข้าว ย่างไปหาเก็บกินขี้หลักเหยี่ย จนว่าอิ่มท้องแป้แล้ (เว้าปานเป็นปลวก เป็นมอด เป็นแบคทีเรีย เด้เดียวหนิ)
ตื่นขึ้น กะประหลาดใจบักอย่างขนาด เลยไปหาพราหมโณเฒ่า (พ่อพราหมณ์นั่นล่ะ) แถว ๆ นั้น เว้าความฝันให้ฟังว่า
มื้อคืนนี้ ฝันเป็นปะหลาดต่าง ฝันว่า ข้าน้อยย่าง เลาะเก็บกิน หยากไย่ ขี้หลักเหยี่ย นั่น จนอิ่มเต็ม ท้องข้อย ซั่นแหลว
. ฝันจั่งซี้ มันสิเป็นจั่งได๋น้อ พ่อหมอ ...
อ่านนิทานเรื่องเซียงเมี่ยง
|