ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2567:: อ่านผญา 
คันบ่ลุลาภได้มีสิ่งขัดขวาง เอาให้คอขาดคาดั่งปลวกกุมกินช้าง แปลว่า หากไม่บรรลุเป้าหมาย เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง เอาให้คอขาดคา เหมือนปลวกพยายามกินช้าง หมายถึง พึงมีความอดทน เพียร พยายาม อย่าท้อถอย


  ล็อกอินเข้าระบบ  
ชื่อ ::
รหัสผ่าน::
*จำสถานะ
 
  วิถีชีวิตชาวอีสาน  
       ดินแดนอีสาน มีวัฒนธรรม ประเพณี เฉพาะตน มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ที่เรียบง่าย ท่ามกลางความแร้นแค้น ชาวอีสาน มีความเป็นอยู่เช่นไร ใช้ชีวิตอยู่เช่นไร สร้างศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีเช่นไรขึ้นมา

     แต่ละจังหวัด แต่ละสถานที่ อาจมีวิถีชิวิต ความเป็นอยู่ ที่แตกต่าง ตามลักษณะพื้นที่ หรือธรรมชาิติที่มีอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมด ล้วนคือวิถีชิวิตแห่งชาวอีสาน

     เชิญทุกๆท่าน ร่วมเขียนบทความ เรื่องสั้น เล่าวิถีชิวิต ความเป็นอยู่แห่งชาวอีสาน ได้แล้วครับ...



กระทู้ธรรมดา... มีข้อความโพสต์ใหม่

  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 113 114 115 116 117 118 119 120 121 122 123 124 125 126 127 128 129 130 131 132 133 134 135 136 137 138 139 140 141 142 143 144 145 146 147 148 149 150 151 152 153 154 155 156 157 158 159 160 161 162 163 164 165 166 167 ตอบกระทู้  
  โพสต์โดย  
นิยายชีวิตอีสาน เรื่อง โสกฮัง - ตาดไฮ ( โดย บ่าวปิ่นลม พรหมจรรย์ ) (คลิกอ่านบทความต่อเนื่อง)
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่134)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,934,700
รวม: 8,937,930 สาธุการ

 
สงสัยสิฮู้จักแต่ นิกายสราญรมย์  พะนะ...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  25 เม.ย. 2553 เวลา 11:25:34  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่135)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 4,926,870
รวม: 4,927,050 สาธุการ

 

ต่อเนื่องจาก ตอนที่แล้ว ครับ

..............................................................................

ในขณะนั้น น้าบ่าวเทา หรือ สีเทา น้องของยายยม ผู้เป็นแม่ ของบักลม เดินผ่านมาพอดี  แกไม่ได้ใส่เสื้อ
ผ้าขาวม้า คาดเอว เกิบก็ไม่ได้ใส่ ย่างตีนเปิ่ม ตามคันหนามาเนิบ ๆ
“ บุยย..ม่วนเนาะสู เล่นน้ำไฮ่นา  กูอยากเล่นนำเด้..” น้าบ่าวเทาเอิ้นมาเสียงสูง
“ เอ๋า เจ้ามาแต่ใส น้าบ่าว “ ลมเอิ้นถามกลับไป
“ มาแต่เลาะหางม ขอยโข่ง หอยขี้กระต่าย ไปก้อยกินงาย “  แกตอบพลาง ก้มลง งมหอยตามเลาะคันแทนา ลมลุกขึ้นวิ่งมาหา ส่องดูในข่อง เห็นหอย ทั้งหอยโข่ง หอยปัง หอยขี้กระต่าย อยู่เกือบเต็ม
“ เอ๋า แล้ว แม่นไผ ย่างตามเจ้ามา แหล่งเจ้าติ  “   ว่าพลางชี้มือไปทาง  ร่างสูงโปร่งที่เดินตามหลัง
“ หึยย..บักเซียงลอน ผีบ้า ดอกนั่น .ป่วงประสามัน “  น้าบ่าวเทาบุ้ยปาก
ที่แท้เป็น เซียงลอน หนุ่มสติบ่ดี ประมาณว่าปัญญาอ่อน  ผีบ้าประจำหมู่บ้าน  
เซียงลอน เป็นผีบ้าแต่ก็ไม่เคยทำร้ายใคร  มีแต่เอาผ้าขาวม้าพาดคอ อุ้มหมากตูมกา   เลาะไปทั่งโคก ทั่วทุ่ง พึมพำคนเดียว
วันหนึ่ง ๆ เซียงลอน เดินเลาะป่วง  เข้าขั้นมาราธอน ชนิดที่ แม้วยังขยาด  เวลาพบเจอคน
ก็จะถามเสียงเนิบ ๆว่า
“ แม่นไผ..ฮา..น..น...( นั้นใคร)  “    หรือ ถ้าหากเจอ ตาวาด พ่อบักลม ก็จะเอิ้นถามว่า
“ บักลมใหญ่..บ่...ฮา..น..น “  ( คงจะหมายความว่า พ่อบักลม ใช่ไหม  )  
“ แม่นเจ้าได้แหล่ง คักเนาะ น้าบ่าวเทา “ ลมพูดเหน็บ พลางหัวเราะคิกๆ
เซียงลอนหยุด กึก ตรงคันนาที่น้าบ่าวเทากำลัง งมหอย มือชี้มาทางแก ทำท่าทางตื่นเต้น..
“  บักเทา บ่..ฮาน..น...น.. “    มือยังชี้ค้างอยู่
“ เออ กู นี่หละ .มึงสิท้วงเฮ็ดหยัง.. ไป๊..เมือนามึงพู้น ปานนี้ แม่มึงตามหาแล้ว “  น้าบ่าวเทาทำท่ารำคาญ
เซียงลอนเดินผ่านไป อย่างไม่แยแส มืออุ้มหมากตูมกา ตามสไตล์
“  พ่อมึงเด  อยู่ไส  กูว่าสิมาหา ขอข้าวปลูก ข้าวอีเตี้ย ไปหว่าน สั้นดอก “ น้าบ่าวเทาหันหน้ามาถาม
“  พ่อเพิ่นไถนาฮุด อยู่ ไฮ่กกหว้า พู้น  “ ลมชี้มือบอก
ตะวันสายโด่ง แดดกล้าแล้ว  น้ำในไฮ่นาที่เคยเย็นฉ่ำ ถูกแดดเผา จนรู้สึกอุ่นๆ   บรรยากาศ
หลังฝนตกใหม่ ที่มีแดดออก สัตว์ต่างๆ ที่จำศีลในฤดูแล้ง  มักจะออกมาหากินด้วยความหิวโหย ลมกับน้อง ชวนน้าบ่าวเทา ขึ้นไปหาพ่อ เพื่อแวะคุยกันเรื่องข้าวปลูก  พากันเดินเป็นแถวตามคันนา
ลมคิดในใจ มื้อนี่ ได้แนวกินหลายอย่างแล้ว  ทั้งกบ ทั้งเขียด  ทั้งปูนา   ท้องเริ่มร้องจ๊อก ๆ จึงรีบสาวเท้า
ก้าวไว ลัดทุ่ง จินตนาการถึง ถ้วยแจ่ว วางไว้ต่อหน้า

“ งูสิ้ง ...! ..งูสิง....! “   เสียงเซียงลอน ร้องตกใจ ดังลั่นมาจาก ชายทุ่ง
“ เฮ้ย.บักผีบ้า.เซียงลอน มันพ้อ..งูสิง  ไป แมะ สูแล่น  มันสิ บ่ทัน “  น้าบ่าวเทาฮ้องเสียงดัง ดีใจวาบ จะได้งูสิง เอาไปต้มส้ม เป็นอาหารสุดแซบ  รีบวิ่งทะยานไปทางต้นเสียงอย่างรีบเร่งหมาบักแดง วิ่งแซงขึ้นหน้า ตามด้วย ลม และ น้อง  
ความเร็วเป็นของปีศาจ  ดังคำเปรียบเทียบทั้งสาม สี่กับหมาบักแดง รีบจ้ำอ้าวสุดสามารถ แล่นลัดงูสิง  
เซียงลอนผีบ้า ยังกระโดดโลดเต้นจนหมากตูมกาหลุดมือ ปากก็พร่ำท้วง ไม่ขาด
“ งูสิ้ง...งูสิง !“  
น้าบ่าวเทาวิ่งจนลมออกหู ลัดไปทางไฮ่นาที่ เซียงลอนอยู่  ดีใจลิงโลดเต็มประดา... น้ำลายแตก พาก ๆ
ส้มปาก  เมื่อคิดฮอด “ ต้มงูสิง "
หมาบักแดงไปฮอดก่อน เห่าเสียงขรม ตามจังหวะการเต้น เพราะความตื่นกลัวของเซียงลอน
น้าบ่าวเทา กับลม โดดข้ามคันนา ตามมาติด ๆ  ส่วน บักกุ้นน้องชาย
ยังมาไม่ถึง  ล้มคุบคันนาอยู่ พอมาถึง น้าบ่าวเทากวาดสายตา ไปทั่วไฮ่นาอย่าง
รีบเร่ง  อันว่า ไทบ้านให้ฉายา น้าบ่าวเทาว่า
“ เซียนโคก “ เพราะว่าแกชำนาญการหากินทางโคก สายตาแหลมคม รวดเร็ว
ยิ่งกว่า แหลว ( เหยี่ยว)แม้ว่างูสิง จะเลื้อยได้เร็วปานได ระยะทางแค่นี้  ก็ไม่อาจรอดสายตาประดุจแหลวห่าว ของแกไปได้
แกมองสำรวจไปรอบๆ บริเวณ หอบฮัก ๆ ด้วยความเหนื่อย  พลันสายตาก็ชำเรืองเห็น รูปร่างคดโค้งลักษณะดำ ๆ อยู่ห่างจาก เซียงลอน ประมาณ 3 วาเศษ  
แกโพล่งขึ้นด้วยเสียงอันดัง
“  ฮากไม้....!  คน..เอ้ย.....! บักเซียงลอนผีบ้า ตั๊วะกูแล้ว.ว.ว...!"
ที่แท้เป็นรากไม้ รูปร่าง คดโค้งงอ ดำๆ วางอยู่กลางไฮ่นา
“ งุสิ้ง..งูสิง..บ่..ฮา..น..น .”   เซียงลอนยังท้วงไม่หยุด    มือชี้ไปที่รากไม้ ผู้ต้องหา คดีงูสิง
ทั้งน้าบ่าวเทาและลม หัวเราะกั๊กๆ  ปนเสียงหอบ ขำตัวเอง  ที่เสียท่าให้กับผีบ้าเซียงลอน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 515 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  26 เม.ย. 2553 เวลา 14:34:06  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ป้าหน่อย    คห.ที่136)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : อุบลราชธานี
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 05 ธ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 2,169
ให้สาธุการ : 3,415
รับสาธุการ : 4,642,090
รวม: 4,645,505 สาธุการ

 
555+ เพิ่นกะท้วงตามความคึดเพิ่นเนาะ
คนดีๆ หากบ่อคึดเบิ่งก่อน ฮู้ยินกะฟ่าว
จ้ำอ้าวใส่บักอย่างคัก หาว่าเพิ่นตั๋วพู้นได๋    

 
 
สาธุการบทความนี้ : 239 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  26 เม.ย. 2553 เวลา 14:55:21  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  สาวส่า เมืองยโส    คห.ที่137)  
  เจ้ายุทธภพน้อยจ้า
ภูมิลำเนา : ยโสธร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 01 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 1,784
ให้สาธุการ : 155
รับสาธุการ : 2,991,830
รวม: 2,991,985 สาธุการ

 
เว้ามาเห็นภาพอีพ่อแล่นนำเสียงหมา
ยามได้ยินหมาเห่า เอาโลด
จักมันเห่าหยัง แล่นไว้ก่อน ว่าแต่มันเห่างู
ลางเทือถืกหมาตั๊วคือกันล่ะหว่า

 
 
สาธุการบทความนี้ : 251 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  26 เม.ย. 2553 เวลา 18:23:22  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่138)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 4,926,870
รวม: 4,927,050 สาธุการ

 
คุณป้าหน่อย:
555+ เพิ่นกะท้วงตามความคึดเพิ่นเนาะ
คนดีๆ หากพอคึดเบิ่งก่อน ฮู้ยินกะฟ่าว
จ้ำอ้าวใส่บักอย่างคัก หาว่าเพิ่นตั๋วพู้นได๋


ป้าหน่อย เฉียบคม  วิเคราะห์ได้ ตรงประเด็น
จ๊วด..ด.ให้ ป้าเลา จักบาดเกิ่น

 
 
สาธุการบทความนี้ : 207 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  26 เม.ย. 2553 เวลา 18:34:44  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  อีเกียแดง {แห่งรัตติกาล}    คห.ที่139)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : บุรีรัมย์ @ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 07 เม.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,431
ให้สาธุการ : 4,145
รับสาธุการ : 11,358,130
รวม: 11,362,275 สาธุการ

 
เซียงลอนเลาบ่ได้ตั๋วเด้นั่น

แค่เลาถามว่างูสิงบ่ฮั่นหน่ะ พะนะ  แต่เลาสิตื่นเต้นไปจั๊กหน่อย เหล่นจนหมู่สักกะโยงนำ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 248 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  27 เม.ย. 2553 เวลา 06:06:51  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่140)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 4,926,870
รวม: 4,927,050 สาธุการ

 

ว่าแล้วกะ คิดฮอด  แม่ใหญ่ดอกคูณ เด้.. เซาเจ็บตาแล้ว บ่ครับ.
อ้ายนายฮ้อย.ฯ  กะมิด ไปเลย เนาะ..อยู่ดีมีแฮงกันบ่น้อ...

ตอนต่อไป กะ ขอ อนุญาต อ้ายใหญ่มังกร เด้อครับ  อ่านเบิ่ง วิถีท้องนา ฯ
ของอ้ายเลาแล้ว สะกิดใจเจ้าของ กะเลยเอามา เขียน อาจสิคล้ายๆ แน
แต่กะสิเติม ความโรม้านต์  ใส่นำ เอาใจ ป้าหน่อยกับสาวส่า ดอก หวา

คันอ้ายใหญ่ บ่อนุญาติ กะ สิเปลี่ยนเนื้อเรื่อง  ไปเป็น แนวบู๊..พู้นดอก..
ฆ่าแต่ กบ แต่เขียด แต่ ปลา คือ อ้ายรุทธิ์ เพิ่น..แหล่ว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 192 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  27 เม.ย. 2553 เวลา 16:06:38  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  สาวส่า เมืองยโส    คห.ที่141)  
  เจ้ายุทธภพน้อยจ้า
ภูมิลำเนา : ยโสธร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 01 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 1,784
ให้สาธุการ : 155
รับสาธุการ : 2,991,830
รวม: 2,991,985 สาธุการ

 
เอ๊า หยังจั่งมาเป็นแนวนั้น
กำลังสงสัยอยู่นี่
ว่ายามได๋สิได้ฮู้จักเทือ ว่าพระเอกกะนางเอก
สิลงเอยกันแบบได๋ เว้ามาจักเทือบ่งดู๊
ฟ้าว ๆ เขียนมาลงไว ๆ แน่ อ้ายปิ่น
อย่าให้ใจดวงน้อย คอยคองโดนหลาย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 226 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  27 เม.ย. 2553 เวลา 17:02:54  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่142)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 4,926,870
รวม: 4,927,050 สาธุการ

 

ตอน....กระดิ่งเปลือกหอย

หลังจากฝนพรำมาตอนดึกเมื่อคืน พื้นภูวดลทุกหัวระแหง แห่งโคกตาดไฮก็ชุ่มชื้น ฉ่ำเย็น เคลือไส้ไก่ , เคลือหมากส้มลม เคลือเป้า  ต่างงอกงามเลื้อย
เป็นเถาตามป่าโคก ผลิใบสีเขียวอ่อน บ้างก็งอกเงยปีนขึ้นไป คลอบคลุมซุ้มต้นหนามคองในป่า  ขณะที่พุ่มคัดเค้ากำลังแตกใบใหม่ ต้นจิกต้นฮัง ต้นยางนา  ต้นส้มกบ ต้นเหมียด ออกใบสีเขียวเข้มหมดแล้ว ทำให้ทัศนียภาพของป่าโคก ดูครึ้มพื้นที่ตรงไหนเป็นที่ลุ่ม ก็มีน้ำไหลเป็นธารเล็ก ๆ ใสและเย็น
หยดน้ำฝนที่ตกมา ยังค้างตามใบไส้ไก่ เป็นหยด ๆ   ส่วนตามใบต้นกุงซึ่งมีขนาดใหญ่ โอบอุ้มน้ำไว้จนแทบ ดื่มกินได้  เบื้องล่างลงมา ต้นอีผุก ( ต้นบุก) กำลังแทงลำต้นพ้นเหนือดินอีกทั้งต้นอีลอก ( พืชชนิดเดียวกันกับต้นบุกชนิดหนึ่ง ) บางต้นแทงหน่อพ้นพื้นสูงแล้ว  แต่ใบยังไม่กางคลี่ออกดีนัก เป็นที่อาศัยของกุดจี่ดำอยู่กันเป็นฝูง พวกมันซุกตัวอยู่ตาม ใบต้นอีลอกที่ยังม้วนเป็นลอน
เถามันเทียน และ เถามันนก พันโอบขึ้นตามลำต้นใหญ่ของต้นจิกเนิ้ง(เอน) ในป่า  เสียงนกแทด นกกระลวดฮ้องแซวๆ หากินหนอน กินแมลง ที่บินไม่ว่องไวอย่างที่ควร เพราะปีกเปียกฝน
กระปอมแดง กับขี้โกะ( จิ้งเหลน )  วิ่งผ่านใบไม้แห้งตามพื้น เสียงดังโกรกกราก  ต่างตรงดิ่งมาทางตั๊กแตนที่กระโดดมาตกตรงลานแคบๆ ระหว่างพุ่มจิก  เมื่อประจันหน้ากัน ต่างแลบลิ้นทักทายแล้ววิ่งร้อยเมตร ไปกันคนละทาง
จันแรมถือกิ่งไม้ขนาดเหมาะมือหาขดเขี่ย ตามพุ่มไม้ คือสาเหตุ
“ เอื้อยจันเพ็ญ เอาหอยเหลื่อย ไปกินบ่ เอื้อย “   จันแรมเอิ้นถาม
“ คันอยากกะเอาโลด เอื้อยสิหาเห็ดเผาะ “  เสียงตอบกลับมา พลางใช้ไม้เขี่ยตามสุมทุม
จันแรมหยิบเอา “ หอยเหลื่อย” ( บางที่เรียก หอยเหลี่ยน )  ขนาดเท่ากำปั้น ใส่กระต่าไว้  อันหอยชนิดนี้คือหอยทากชนิดหนึ่ง เวลาจะคลานไปทางใด มันจะผลิตน้ำลายเมือกลักษณะลื่นๆ เพื่อสะดวกในการคลาน
เวลามีภัยมันก็หดตัว เข้าในเปลือกแข็ง ๆ สบายใจเฉิบ
เห็ดเผาะผุดขึ้นตามพื้นดิน เป็นก้อนกลมๆ  ขนาดเท่าลูกแก้ว เมื่อพบก้อนหนึ่งแล้ว ก็เอาไม้เขี่ยบริเวณใกล้ๆ กัน  เพราะมันมักจะเกิดเป็นกลุ่ม  จันเพ็ญเอาไม้จิ้มเอาเห็ดเผาะ  อาหารอันโอชะ แถมปีหนึ่ง มันจะเกิดครั้งเดียว จันเพ็ญเลือกเอาเฉพาะเห็ดเผาะที่อ่อน ๆ ส่วนเห็ดแก่ ไม่เอาเพราะ หนังมันหยาบ
เคี้ยวยาก ข้างในมีนวลสีดำ บ่แซบ ส่วนที่ยังอ่อนอยู่ ข้างในมีนวลสีขาว รสชาติกลมกล่อมหลาย ตาชำเรืองมองไปทาง ธารน้ำไหลเล็ก ๆ เป็นฮ่องตามโคก เห็นเห็ดเผาะฝ้าย เม็ดบักใหญ่ โผล่ตามดินแฮ่
อันว่าเห็ดเผาะฝ้าย มันจะก้อนใหญ่กว่าเห็ดเผาะหนัง รอบๆ มีใยขาวๆเป็นรากฝอย ปกคลุม คล้ายๆดอกฝ้าย จึงเรียกว่า” เห็ดเผาะฝ้าย ”  ส่วนรสชาติ ไม่อร่อยเท่าเห็ดเผาะหนัง  ส่วนมากเอามาแกงบ่แซบแต่ว่าพ่อใหญ่ค้ำพ่อของจันเพ็ญ ชอบเอามา “จ่าม” เสียบไม้ ทาเกลือย่างไฟ ให้ พอแฮ่มๆ( กรอบๆ ) กัดกิน ว่าแม่น กินลูกชิ้นโกเด้ง...
ได้เห็ดเผาะพอสมควรแล้ว ก็หันหาจันแรม เพื่อเรียกเอากระต่ามาใส่ แต่ก็เห็นจันแรม กำลังคุ้ยเขี่ยตามพุ่มจิก พุ่มฮัง แววตาตั้งอกตั้งใจอย่างขนาด จันเพ็ญเลยเปลี่ยนใจ เด็ดเอาใบตองกุงใหญ่ ๆมาม้วนเป็นทรงถ้วย หักเอากิ่งไม้มาเสียบ กลัดขัดไว้ เป็น “ โถก “  เพื่อเอาไปใส่เห็ดเผาะ
“ เอื้อย.!  เห็ดหยัง น้อยๆ เหลืองๆ นี่  มาเบิ่ง แน ..” จันแรมทำตาโต นั่งหยองๆ ส่องพุ่มไม้
เห็ดเล็กๆ รูปร่างเป็นกิ่งฝอยเหลือง ๆ  สีสด เกิดเป็นหมู่ เป็นจุ้มตามใต้พุ่มจิก ที่ยังชุ่มชื้น มองเผินๆเหมือนกากทองคำหล่น เกลื่อนกลาด
“ เห็ดก้ามปู หล่า.แกงแซบคือกัน แต่ว่า ขี้คร้านเลือก มันดอกน้อย “ จันเพ็ญเฉลย
“ อืม..มม. “  จันแรมครางในลำคอ เพ่งพิจ ดังจาระไน อัญมณีแห่งโคก
“ โห้...ทางพู้น เห็ดหยัง..เหลือง เอ้อเห้อ..เต็มเลย.!” จันแรมท้วงเสียงดัง  
ลูกกลมๆ สีเหลืองอร่าม โผล่จากพื้นดิน เป็นกลุ่มๆ คล้ายเห็ดเผาะ แต่ว่า มีสีเหลือง ดังก้อนทองคำเผยโฉม อวดศักดา ดังของมีค่าของ โคกตาดไฮ
“ เห็ดหำฟาน..เด้อ อันนั้น  แกงกะได้  ปิ้งกินกะได้ “  จันเพ็ญพูดยิ้มๆ
“ เอาเมือฝาก อีพ่อ เนาะ “  จันแรมออกความเห็น ก่อนละความสนใจ จากเห็ดก้ามปู ตรงรี่เข้าไปคุ้ยเอาเห็ดหำฟาน ได้มากำหนึ่ง

การเกิดของเห็ดในป่าโคก จะมีอยู่ สามช่วง คือ หนึ่ง ช่วงลงนาใหม่ไถนาฮุด  เห็ดที่เกิด กะมี เห็ดขอน
เห็ดเผาะ เห็ดก้ามปู เห็ดอัณฑะเก้ง  เห็ดแทด เห็ดทา เห็ดดาว และเห็ดปลวกน้อย ช่วงที่สอง ช่วงฝนตกหนัก คือ ฤดูดำนา  ช่วงนี้เห็ดเกิดหลายที่สุด มีหลายชนิด  ทั้งเห็ดผึ้ง เห็ดหูหนู เห็ดปลวก เห็ดไค เห็ดดิน เห็ดถ่าน เห็ดหาด เห็ดน้ำหมาก
เห็ดระโงก อีกทั้งจะมี เห็ดตายเบื่อ  มองไปทางใด เต็มไปด้วยเห็ด เกิดอยู่ทุกพุ่มไม้  บ่อึดบ่อยาก
ส่วนช่วงสุดท้าย เป็นช่วงข้าวตั้งท้อง ฝนเริ่มขาด โคกเริ่มแห้งช่วงนี้ มีเห็ดกระด้าง เห็ดปลวกตาบ  เห็ดขาว  เห็ดบด เห็ดก้อนถั่ง  ส่วนการดูว่าเห็ดเริ่มออกแล้วนั้น
ชาวบ้านอาศัยท้องฟ้าเป็นผู้ทำนาย  วันใดท้องฟ้ามีกลุ่มก้อนเมฆลอยเป็นลายดอกสร้อย   เรียกว่า “ ฟ้าลายเห็ดบด “  ให้รีบเข้าป่าโคกได้เลย ไม่เคยผิดหวัง
อีสานสมัยป่าโคกยังอุดมสมบูรณ์ ช่างหลากหลายทางชีวะวิทยา หนอ... ในป่าโคก มีตั้งแต่ ของขบเคี้ยว ,อาหาร จนถึงวัสดุก่อสร้าง เครื่องไม้เครื่องมือ ครบครัน   หากจินตนาการไม่ออก ให้นึกถึงห้างสรรพสินค้า
ในปัจจุบัน  เวลาเดินเข้าไป อยากได้อะไร มีทุกสิ่งเสมอ  เพียงแต่ห้างนั้นคือ ระบบนิเวศขนาดใหญ่ ของป่าไม่เคย นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเลยสักชิ้น... ต่างเพียงแต่ สิ่งที่ใช้ซื้อหา ไม่ใช่เงินทอง แต่เป็น เรี่ยวแรงและภูมิปัญญาเท่านั้น ป่าโคกมีทุกอย่าง ที่ตอบสนองการดำรงชีวิต พื้นฐาน ครบปัจจัยสี่
“ ไป โงเมือเถาะ จันแรม  ได้พอกินแล้ว “ จันเพ็ญชวนน้องสาวกลับ เมื่อเห็นว่าได้เห็ดพอกินแล้ว
ระหว่างเดินทางกลับ จันเพ็ญและเด็ดเอา ยอดเถาไส้ตัน และ ยอด ส้มขี้มอด
เพื่อเอาไปแกงใส่เห็ด  ส่วนจันแรมเลาะตามโพน เก็บเอาเปลือกหอยเหลื่อย ที่ตายแล้ว อันใหญ่ ๆ มาด้วย
กระนั้นจันเพ็ญก็ยังไม่วาย เก็บดอกกระเจียวแดง กับดอกกระเจียวขาว ( กระเจียวว่าน ) ห่อใส่ใบตอง ติดมือกลับ กะเอาไปลวกกิน เป็นอาหารเสริมอีกอย่างหนึ่ง
ยังมีต่อเด้อครับ พี่ป้าอาว อา... บ่ทันจบตอน
........................................................................................

 
 
สาธุการบทความนี้ : 526 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  27 เม.ย. 2553 เวลา 18:20:37  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  อีเกียแดง {แห่งรัตติกาล}    คห.ที่143)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : บุรีรัมย์ @ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 07 เม.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,431
ให้สาธุการ : 4,145
รับสาธุการ : 11,358,130
รวม: 11,362,275 สาธุการ

 
อยากกินแกงเห็ดนำสาวจันทร์แรมเด๊เนาะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  27 เม.ย. 2553 เวลา 18:38:45  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปราร้านอกไห   ตอบเต็มรูปแบบ || Quick Reply  
  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 113 114 115 116 117 118 119 120 121 122 123 124 125 126 127 128 129 130 131 132 133 134 135 136 137 138 139 140 141 142 143 144 145 146 147 148 149 150 151 152 153 154 155 156 157 158 159 160 161 162 163 164 165 166 167

   

Creative Commons License
นิยายชีวิตอีสาน เรื่อง โสกฮัง - ตาดไฮ ( โดย บ่าวปิ่นลม พรหมจรรย์ ) --- วิถีชีวิตชาวอีสาน (ปลาร้านอกไห --- อีสานจุฬาฯ)